ใครที่กำลังเตรียมตัวซ้อม เพื่อส่งเดโมเข้ามาประกวด HOTWAVE MUSIC AWARDS อยู่ ต้องมาดู “แสตมป์ อภิวัชร์” รุ่นพี่ที่เคยแข่งขันเวทีนี้หลายครั้ง และปีนี้ก็ได้กลับมาเป็น Commentator ด้วย ซึ่งจะมาแชร์ประสบการณ์ และเทคนิคดี ๆ ในการประกวดให้กับน้อง ๆ ทุกคนกัน

บรรยากาศตอนแข่ง

“ตอนนั้นมันยังไม่มีเทคโนโลยีการอัดเสียงที่บ้านเหมือนตอนนี้ ต้องเล่นที่ห้องอัดห้องซ้อมกัน ก็อัดเทปเป็นเดโมส่งไป ผมจำได้ว่าส่งไปวันสุดท้ายเลยมั้ง แล้วก็รอฟังประกาศผลทางวิทยุ”

เล่นดนตรีมานานเท่าไหร่ก่อนลงแข่ง

“ก่อนหน้าสัก 2-3 ปี ตอนนั้นเด็กวัยรุ่นทุกคนอยากจะเล่นดนตรี ถ้าจะเล่นดนตรีก็เพื่อจะแข่งฮอตเวฟเนี่ยแหละ ผมเชื่อว่าอย่างงั้นนะ ทุกคนจะมีความฝันว่า เราจะตั้งวงกันเพื่อไปสู่ HOTWAVE MUSIC AWARDS”

เวที HOTWAVE MUSIC AWARDS มีผลต่อเส้นทางดนตรีของพี่ไหม

“มันทำให้เรามีจุดมุ่งหมาย มีเพื่อน ๆ ที่อาจจะไม่ใช่วงเดียวกันก็ได้นะ เราเห็นเด็กรุ่นเราที่เล่นดนตรีกันเต็มไปหมดเลย ก็รู้สึกว่าดนตรีมันสนุก ผมว่าความสนุกตรงนั้น มันก็เลยผลักดันให้เราชอบดนตรีต่อมา”

การเปลี่ยนแปลงของดนตรีในมุมมองของพี่แสตมป์

“จริง ๆ ผมว่าตัวดนตรีมันเปลี่ยนไปตามธรรมชาติ เปลี่ยนไปตลอดอยู่แล้ว ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงในยุคของผมมันเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันเปลี่ยนที่สุดตลอดทางที่ผมเดินมา คือช่องทางการนำเสนอ ที่ผ่านมาผู้ผลิตจะเป็นคนผลิต แล้วผู้เสพก็จะไปซื้อ ไปฟังเทป วิทยุ โทรทัศน์ แต่ตอนนี้ทุกคนกลายเป็นผู้ผลิตได้หมดเลย ซึ่งมันใหม่มาก วันนี้กลับบ้านอยากแต่งเพลง ทำรายการ ทำหนัง ก็ทำได้เลย ตอนนี้คนแต่งเพลงแล้วอัปโหลด มันอาจจะไวรัลขึ้นมาในค่ำคืนนึง”

วงแบบไหนที่จะโดนใจพี่แสตมป์

“เราอาจจะมองเห็นว่าเด็กกลุ่มนี้เจ๋งมาก ๆ เลยนะ เขามีแพชชัน มีไอเดียที่ดี แต่การประกวดดนตรี มันต้องเล่นดี หาวงที่พร้อมตอนนี้ ที่ชนะแล้วบอกได้ว่าวงนี้มันชนะอะ มันไม่เหมือนประกวดไอดอลที่เห็นว่าคนนี้เป็นสตาร์ แต่ยังร้องไม่ค่อยดี งั้นเราเอามาปั้นดีมั้ย ผมว่า HOTWAVE MUSIC AWARDS ไม่ใช่อันนั้น”

แนะนำไอเดียในการทำเพลงเพื่อใช้ในการแข่งขัน

“ทำเพลงที่ตัวเองชอบ เลือกที่ชอบก่อน ทำเพลงที่อยากได้ยิน แต่มันยังไม่มี มันคือจินตนาการที่เราอยากเห็นสิ่งนี้ แต่ยังไม่มีใครทำให้เราดู มันอาจจะกลายเป็นสิ่งใหม่ที่นำไปสู่ความเป็นเราในอนาคตก็ได้”

ฝากอะไรถึงน้อง ๆ

“Once in a lifetime ครับ อยากให้มาประกวดฮอตเวฟนะครับ สนุกจริง ๆ ผมผ่านมาแล้ว แล้วก็ช่วงมัธยมมันเกิดขึ้นครั้งเดียว ขอให้ทำอะไรให้มันไว้ลายหน่อย มาสนุกกัน มาเจอเพื่อน ๆ มาทำให้เราจบมหาลัยแล้วนึกกลับไปได้ว่า เฮ้ย เราเคยสุดเหวี่ยงทางดนตรีขนาดนี้ โตขึ้นจะเป็นอะไรค่อยว่ากันนะ แต่ตอนนี้เรามาเล่นดนตรีกันเถอะ”